มนุษย์ได้บุกเบิกพื้นที่ นำทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนพื้นดิน ใต้พื้นดินและในมหาสมุทร มาสนองตัณหาของตนอย่างไม่จำกัด จนทรัพยากรของโลกร่อยหรอลงอย่างน่าวิตก
การกระทำต่อทรัพยากรธรรมชาติบนโลก จากน้ำมือของมนุษย์นี้ เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ก่อให้สภาวธรรมชาติบนโลกเสียความสมดุลไป ธรรมชาติจึงต้องปรับตัวเองให้เกิดความสมดุลขึ้น การปรับตัวของธรรมชาติบางคราวก่อให้เกิดเป็นภัย เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด อากาศวิปริตเป็นต้นว่าร้อนจัด หนาวจัด ฝนตกหนัก แล้งจัด หรือแม้กระทั่งเกิดสงครามแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ทำลายชีวิตมนุษย์ไปจำนวนมาก
ยิ่งมนุษย์รุกล้ำ ทำร้ายธรรมชาติมากขึ้นเท่าใด ธรรมชาติก็จะทำลายมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น
ธรรมชาติไม่ได้โหดร้ายต่อมนุษย์ แต่มนุษย์ต่างหากที่โหดร้ายต่อธรรมชาติ กอบโกยเอาผลประโยชน์จากธรรมชาติ นำทรัพยากรธรรมชาติมาสนองตัณหาของตนอย่างไม่รู้จักเพียงพอด้วยความโลภ
มนุษย์สามารถอาศัยบนโลกใบนี้ อย่างสงบ เย็น ได้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้ หากเข้าใจธรรมชาติ รู้จักนำทรัพยากรธรรมชาติ มาใช้กับชีวิตอย่างเหมาะสม ไม่รุกล้ำทำลายธรรมชาติ
แต่หาก มนุษย์ไม่เข้าใจธรรมชาติ ยังคงทำร้ายธรรมชาติอย่างอหังการไปเรื่อยๆ ธรรมชาติก็จะทำลายมนุษย์ไปตามวิถีของธรรมชาติ จนมนุษย์อาจสูญพันธ์ไปจากพิภพในวันหนึ่งก็ได้
ที่มา : http://nutsayt.blogspot.com/p/blog-page_8.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น